ปากแห้ง แตก เป็นแผล

แนะนำ 6 วิธีจบปัญหา ปากแห้ง แตก เป็นแผล

ปากแห้ง แตก เป็นแผล ปัญหากวนใจที่ทำให้ริมฝีปากอันเนียนนุ่มของเราต้องเจ็บจี๊ด ซึ่งอาการแบบนี้เป็นอาการที่ไม่มีใครชอบแน่ ๆ เพราะเลือดก็ออก กินข้าวก็ไม่อร่อยสะใจเหมือนที่เคยเป็น ฉะนั้นวันนี้เราจะพาคุณมาเอาชนะปัญหาที่น่าเบื่อนี้กัน รับรองว่าถ้าทำตามวิธีที่เรานำมาฝาก ริมฝีปากของคุณจะเนียนนุ่ม ไม่มีอาการปากแห้ง ปากแตก มากวนใจแน่นอน


อาการปากแตกเป็นอย่างไร

ปากแตก คือ ภาวะที่ริมฝีปากนั้นขาดความชุ่มชื่น จึงทำให้ผิวปากนั้นแห้ง ลอกเป็นขุย ซึ่งในกรณีที่เป็นหนักก็จะมีอาการเป็นแผล เลือดออกร่วมด้วย ทำให้แสบปากอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้แผนนั้นติดเชื้อจนอาจลุกลามถึงขั้นเป็นหนองได้


ปากแตกเกิดจากอะไร

ริมฝีปากนั้นเป็นส่วนที่ไม่ได้มีต่อมไขมันที่คอยสร้างน้ำมันเหมือนกับผิวหนังบนร่างกาย การดื่มน้ำน้อย รวมถึงการชอบเลียริมฝีปาก ก็ล้วนส่งผลให้ปากแตกได้ อีกทั้งสารเคมีที่อาจจะแทรกซึมมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น การใช้ลิปสติกที่ผสมสารเคมี ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ริมฝีปากนั้นแห้งคล้ำ ลอก เป็นขุยได้อีกด้วย


วิธีรักษาและป้องกันอาการปากแตก

วิธีรักษาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการปากแตกได้อีกมีหลายวิธี และต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการปากแตกด้วย ก็จะทำให้เราสามารถรักษาริมฝีปากให้เนียนนุ่ม น่าสัมผัสไปอีกนาน


1.ดื่มน้ำให้มาก

ดื่มน้ำให้มาก

เมื่อมีอาการปากแตก สิ่งแรกที่ต้องสังเกตเลยนั่นคือ ช่วงนั้นเราดื่มน้ำน้อยมั้ย ถ้าหากว่าใช่ วิธีแก้ง่าย ๆ ก็คือการดื่มน้ำให้มาก ดื่มบ่อย ๆ ก็จะช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื่นขึ้น ซึ่งตามหลักแล้วเราทุกคนต้องดื่มน้ำในหนึ่งวันให้ถึง 6-8 แก้ว แม้จะไม่ได้ออกกำลังกายก็ควรดื่มให้ถึงปริมาณที่กำหนด เพื่อสุขภาพที่ดี ช่วยป้องกันและลดปัญหาผิวแห้งได้ด้วย


2.หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก

หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก

รู้หรือไม่ว่าในน้ำลายนั้นมีเอนไซม์ที่ใช้สำหรับย่อยอาหาร หากคุณนำลิ้นมาเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เอนไซม์เหล่านี้มีส่วนในการทำให้ริมฝีปากแห้ง และถ้าเลียริมฝีปากเป็นประจำก็มีผลทำให้ริมฝีปากนั้นดำคล้ำง่ายขึ้น รวมถึงเวลาไปไหนมาไหนแล้วยังติดเลียริมฝีปากก็จะทำให้เสียบุคลิกภาพได้


3.กินอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามิน

กินอาหารที่มีประโยชน์

บางครั้งการกินอาหารที่ไม่ครบ 5 หมู่ ก็มีส่วนทำให้ร่างกายขาดวิตามินบางตัวที่จำเป็น เช่นวิตามินซี วิตามินบี เป็นต้น พอร่างกายรับสารอาหารไม่ครบ ก็ก่อให้เกิดอาการหรือมีโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารดี ๆ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึงสุขภาพของริมฝีปากที่ดีอีกด้วย


4.เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่ดี

เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่ดี

การแปรงฟันและบ้วนปากเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำทุกวัน จะสังเกตได้ว่ายาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากบางยี่ห้อนั้นจะมีฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรงทำให้มีอาการแสบปาก แสบลิ้น ปากแห้ง เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและลดอาการแสบร้อนด้วย เพื่อสุขภาพของริมฝีปากที่ดี


5.สครับริมฝีปาก

สครับริมฝีปาก

ริมฝีปากก็ไม่ต่างจากผิวส่วนอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการดูแล คุณจึงควรสครับริมฝีปากอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อให้มีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และให้ริมฝีปากนั้นเนียนสวย อมชมพู ดูสุขภาพดี


6.เลือกใช้ลิปสติกหรือลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

คงจะเป็นเรื่องยากที่ต้องบอกสาว ๆ ให้งดทาลิปสติก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้และง่ายด้วย ก็คือการเลือกใช้ลิปสติกที่ดี ไม่ผสมสารเคมี ยิ่งถ้าเป็นลิปสติกที่สีเข้มฉูดฉาดยิ่งต้องระวัง เพราะเสี่ยงที่จะทำให้สีของปากนั้นคล้ำง่ายขึ้น ดังนั้นทางที่ดีคือเลือกใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจะดีกว่า เพราะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าปลอดสารเคมี ปลอดภัย และยังมีส่วนช่วยในการทำให้ริมฝีปากของคุณนั้นชุ่มชื่น อมชมพู น่าสัมผัสตลอดเวลา

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณคงพอจะเห็นว่าอาการปากแห้ง ปากแตก เป็นแผลง่ายนั้นเอาชนะได้ไม่ยาก เพียงหมั่นดื่มน้ำ กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ รวมถึงเลือกใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ก็จะช่วยทำให้คุณมีริมฝีปากที่มีสุขภาพดี น่าสัมผัส นอกจากนี้แล้วหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ ลิปบาล์มจากธรรมชาติ เพราะมองเห็นโอกาสที่ลิปบาล์มจะทำรายได้ให้กับคุณอยู่ล่ะก็ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อปรึกษาทุกขั้นตอนของการสร้างแบรนด์แบบครบวงจรกับเจ้าหน้าที่ของเราได้ฟรี

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.