เข้าสู่ปีใหม่ก็ต้องเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ การสร้างแบรนด์ก็เช่นเดียวกัน ในยุคที่ทุกคนอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ จะให้ขายเสื้อผ้า สกินแคร์ แบบคนอื่นก็ดูจะธรรมดาไปหน่อย เราจึงขอแนะนำผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งประเภทที่เรียกได้ว่าดูดีมีอนาคต สวนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ใช่สินค้าที่ไกลตัวคนไทยสักเท่าไรนัก เพราะสิ่งนั้นคือ ‘ผลิตภัณฑ์สมุนไพร’ นั่นเอง ทั้งยาหม่อง ยาดม ยานวด ก็ล้วนเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทำให้การทำแบรนด์สินค้าสมุนไพรกลายเป็นธุรกิจที่น่าสนใจไม่แพ้สินค้าอื่นเลยทีเดียว หากใครที่กำลังมองหาไอเดียเริ่มต้นธุรกิจ วันนี้ทาง MEDICOS ขออาสาพาคุณไปสำรวจเหตุ 3 ผลที่ควรเริ่มต้นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในปี 2022 หากพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย!
1. เกาะเทรนด์ผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงอยู่เสมอคือ ‘ลูกค้า’ เพราะหากคุณสร้างแบรนด์หนึ่งขึ้นมา พร้อมวางแผนทุกอย่างเรียบร้อย แต่ไม่มีลูกค้ามาซื้อสินค้า ทุกอย่างก็คงสูญเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงกันแทบจะตลอดเวลา เป็นหน้าที่ของเจ้าของแบรนด์อย่างเราที่จะต้องตามเทรนด์เหล่านี้ให้ทัน
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ก็คงมีคำถามตามมาว่า “แล้วเทรนด์ในปี 2022 คืออะไรล่ะ?” นอกจากกระแสที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ เน้นสินค้าจากธรรมชาติและความปลอดภัยในการใช้กันมากขึ้น Tetra Pak ผู้นำการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ยังได้ออกรายงาน Trendipedia ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2020-2021
ซึ่งมีอยู่หนึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าสนใจ คือการหันมาให้ความสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์กับตัวเองและผู้คนรอบข้าง โดยพฤติกรรมนี้เริ่มต้นมาจากการที่หลายคนต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเร่งรีบ ส่งผลให้คนเริ่มมองหาตัวช่วยในการผ่อนคลาย เพื่อให้กลับมารู้สึกเป็นตัวเองได้อีกครั้ง หรือจะเรียกว่าหนีความวุ่นวายออกมาใช้ชีวิตให้ช้าลงก็น่าจะไม่ผิดนัก ทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเภทเครื่องหอมหรือสปา เช่น น้ำมันหอมระเหย ยาหม่อง ยานวดสมุนไพร ที่มาพร้อมกลิ่นหอมจากสมุนไพรและสารสกัดธรรมชาติ มีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และยังพกพาสะดวก สามารถหยิบขึ้นมาใช้ได้ในระหว่างวัน ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว จึงส่งผลให้การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรกลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2022
2.ส่งออกสินค้าสมุนไพรคึกคัก สวนทางเศรษฐกิจ
ถือเป็นความโชคดีของคนไทย ที่การส่งออกสมุนไพรได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทั้งแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรแห่งชาติฉบับที่ 1 ปี 2560-2564 ที่มีเป้าหมายคือ การเพิ่มมูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้ 3.6 ล้านแสนบาทภายในปี 2021 และตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ส่งออกสมุนไพรอันดับหนึ่งของอาเซียน นอกจากนี้ นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวไว้ว่า ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเติบโตในตลาดโลกสูง เนื่องจากกระเเสโลกที่หันมาสนใจสุขภาพ ซึ่งตรงกับสินค้าไทยที่มีวัตถุดิบจากสมุนไพรธรรมชาติและงานวิจัยรับรองในคุณภาพสรรพคุณของวัตถุดิบ อีกทั้งยังมีช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยลดต้นทุน และยังมีระบบขนส่งสินค้าที่จะช่วยให้เข้าถึงต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงทำให้การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีโอกาสเติบโตในตลาดส่งออกในปี 2022อย่างมาก
3.สมุนไพรจากไทย มีชัยไปกว่าครึ่ง
เหตุผลสุดท้ายคงไม่ใช่สิ่งอื่นไกล ด้วยความพร้อมในด้านสมุนไพรของไทยนี่ล่ะ ที่จะส่งผลให้สินค้าสมุนไพรจากไทยไปไกลสู่ต่างแดน เพราะสมุนไพรนั้นอยู่คู่ชาวไทยมาแสนนาน ทำให้แบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มาจากประเทศไทยดูน่าเชื่อถือในมุมมองของชาวต่างชาติ ไม่ต่างจากที่เรามองว่าน้ำหอมที่ดีต้องมากจากฝรั่งเศสนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเมืองไทยยังมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบสมุนไพรที่มีกว่า 1,800 ชนิด สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้มีกลิ่นและสรรพคุณให้เลือกมากมาย
นอกจากชื่อเสียงและวัตถุดิบสมุนไพรอันหลากหลาย ประเทศไทยยังมีโรงงานที่ได้มาตรฐานพร้อมรองรับการผลิตสินค้าสมุนไพร ให้คุณได้สร้างแบรนด์กันอย่างง่าย ๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ซึ่ง MEDICOS ก็เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP พร้อมให้บริการผลิตสินค้าแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นวิจัยสูตร บริการรับผลิตสินค้าในรูปแบบ OEM และ ODM ขึ้นทะเบียน อ.ย. เครื่องสำอาง ยาแผนโบราณ รวมไปถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว
เมื่อทราบถึง 3 เหตุผลข้างต้นแล้ว เราขอพาคุณไปทำความรู้จักกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศกันบ้างดีกว่า
ตัวอย่างแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ประสบความสำเร็จ
มีหลากหลายแบรนด์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ แต่วันนี้เราขอยกตัวอย่างแบรนด์ วาตะโพ (Watapo) เพราะถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ในเมืองไทยที่เริ่มคิดค้นและผลิตสินค้านวดที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ปล่อยสินค้าออกมา โดยสินค้าสมุนไพรของ วาตะโพ อย่างน้ำมันไพล ยาหม่องไพล ล้วนเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย ด้วยคุณภาพและความปลอดภัย ทำให้แบรนด์วาตะโพมีอายุกว่า 30 ปี และยังคงครองใจลูกค้าอยู่จนถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์สินค้าสมุนไพรจากประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จ
ด้วยเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการส่งออกไปยังต่างประเทศ เทรนด์ผู้บริโภคที่สอดคล้องกับสรรพคุณของสินค้าสมุนไพร และสุดท้ายคือความพร้อมของไทยทั้งด้านวัตถุดิบที่หลากหลาย และความพร้อมของโรงงานที่ได้มาตรฐาน ทำให้การสร้างแบรนด์สมุนไพรเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2022 เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว หากคุณอยากเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าสมุนไพร ก็ติดต่อ MEDICOS เพราะเรามีโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP และผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้คุณเลือกผลิตได้มากมาย เช่น ยาหม่อง ยาดม ผลิตภัณฑ์นวดสปา เราพร้อมให้บริการผลิตสินค้าแบบครบวงจร หากสนใจหรือมีข้อสงสัยสามารถคลิกที่นี่ เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1.Brand Buffet. 7 เทรนด์ผู้บริโภคที่มีผลต่อธุรกิจและพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง – จับตา “QR Code Packaging” เก็บ Data ผู้บริโภค [ออนไลน์]. 2020. แหล่งที่มา : https://www.brandbuffet.in.th/2020/08/7-consumer-trends-for-business-and-packaging [1 ธันวาคม 2020]
2.กระทรวงสาธารณสุข และองค์กรภาครัฐ – เอกชน. แผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564 [ออนไลน์]. 2020. แหล่งที่มา : https://www.dtam.moph.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1672:dl0021&catid=42&lang=th&Itemid=334 [1 ธันวาคม 2020]
3.Positioning. ส่งออกความงามยังปัง! กูรูชี้ เทรนด์โลกหาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เข้าทาง ‘สมุนไพรไทย’ [ออนไลน์]. 2020. แหล่งที่มา : https://positioningmag.com/1265423 [1 ธันวาคม 2020]
4.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. สมุนไพรไทย โอกาสธุรกิจ…ที่ต้องคว้าไว้ [ออนไลน์]. 2020. แหล่งที่มา : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Herb-FB-25-11-20.aspx [1 ธันวาคม 2020]