มือใหม่สร้างแบรนด์ วางแผนการตลาดอย่างไรดี

1. วิเคราะห์สถานการณ์

การเริ่มต้นวางแผนการตลาดส่วนมากจะเริ่มจากการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือ การวิเคราะห์ SWOT ของแบรนด์คุณ ซึ่ง SWOT นั้นย่อมาจาก 

• S (Strengths)  คือ จุดแข็งของแบรนด์ ที่มาจากปัจจัยภายใน เช่น จุดแข็งทางด้านการเงิน ด้านการผลิต หรือด้านทรัพยาการบุคคล
• W (Weaknesses) คือ จุดอ่อนของแบรนด์ ที่มาจากปัจจัยภายใน เช่น จุดอ่อนด้านการขาดเงินทุน ด้านนโยบายของแบรนด์ หรือด้านบริหารจัดการ
• O (Opportunities) คือ โอกาส ที่มาจากปัจจัยภายนอก หรือสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น จากเศรษฐกิจ เทคโนโลยี หรือการแข่งขันของตลาด 
• T (Threats) คือ อุปสรรค ที่มาจากปัจจัยภายนอก หรือสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งคล้ายกับโอกาส เช่น เศรษฐกิจชะลอตัว หรือราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ที่สูงขึ้น

การหาจุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจของคุณ รวมถึงโอกาสที่ส่งเสริมจุดแข็งของแบรนด์คุณ และ อุปสรรคที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณ เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรวบรวม คิดวิเคราะห์ พร้อมประเมินและคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจของคุณเพื่อเตรียมรับมือหรือแก้ไขปรับปรุงจากข้อได้เปรียบ และข้อเสียเปรียบต่าง ๆ

2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

การวางแผนการตลาดที่ดีควรมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ละเอียดชัดเจน จะช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะทำการตลาดอย่างไร ที่ไหน และช่วงเวลาไหน โดยข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่ควรกำหนด ได้แก่

• ข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เช่น เพศ, อายุ, สถานะการสมรส เป็นต้น
• ข้อมูลด้านจิตวิทยา เช่น วิธีการดำเนินชีวิต, กิจกรรม และความสนใจ เป็นต้น  

ยกตัวอย่างการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากต้องการขายครีมลดริ้วรอย อาจตั้งกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30-40 ปี มีความสนใจในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ และอาจมีการตั้งข้อกำหนดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และความต้องการของแบรนด์คุณ

3. ตั้งเป้าหมาย

อีกวิธีหนึ่งที่สำคัญของการวางแผนการตลาด ควรตั้งเป้าหมายเพื่อวัดผลประกอบการเพื่อเตรียมรับมือว่าหากผลไม่เป็นอย่างที่ตั้งไว้ จะมีวิธีการปรับปรุงอย่างไร ที่สำคัญควรตั้งเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ มีความเฉพาะเจาะจง สามารถวัดผลได้ และมีการกำหนดระยะเวลาชัดเจน

สมมติแบรนด์ของคุณตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 1 เดือนจะทำให้โซเชียลมีเดียอย่าง Instagram มีการติดตามเพิ่มขึ้น 100 คน หรือ ตั้งเป้าหมายว่าใน 3 เดือน ยอดขายสินค้าของคุณจะต้องเพิ่มขึ้น 15% เป็นต้น

4. วิเคราะห์กลยุทธ์ของแบรนด์

การวางแผนการตลาดโดยการวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของแบรนด์คุณเป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์และหาวิธีการเพื่อให้เป้าหมายที่คุณตั้งไว้สำเร็จลุล่วง เช่น จากข้อข้างต้น หากคุณต้องการเพิ่มผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 100 คนใน 1 เดือน อาจจะใช้กลยุทธ์อย่างโพสต์ภาพเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย หรือจัดกิจกรรมกดไลก์ กดติดตาม กดแชร์ เพื่อแลกรับของรางวัล มาช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตาม

หรืออีกตัวอย่างหนึ่งที่ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 15% ภายใน 3 เดือน โดยอาจจัดโปรโมชั่น ลดราคา Flash sale หรือโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1

5. กำหนดงบประมาณการตลาด

การกำหนดงบประมาณการตลาดให้ระเอียดรอบคอบจะช่วยให้การวางแผนการตลาดของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคุณต้องลองคำนวณงบประมาณสำหรับส่วนอื่น ๆ ของคุณก่อน และควรแบ่งงบประมาณการตลาดแยกไว้สำหรับทำการตลาดโดยเฉพาะ เพราะนอกจากงบสำหรับการโฆษณาแล้ว ยังมีงบของพื้นที่โฆษณา เช่น ทำการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และอาจมีงบสำหรับการติดต่อกับอินฟลูเอนเซอร์เพื่อโปรโมทสินค้า หรือแบรนด์ของคุณ เพราะฉะนั้นควรจัดสรรงบทำการตลาด รวมถึงงบประมาณต่าง ๆ อย่างรอบคอบ 

ดังนั้นการวางแผนการตลาดควรศึกษาและวางแผนให้ละเอียด โดยคุณอาจจะศึกษาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งเพิ่มเติมเพื่อให้การวางแผนการตลาดของคุณออกมาดีเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่อธุรกิจของคุณให้น้อยที่สุด